Module 4 – Strong Ties

STRONG TIES

CAN DO STATEMENTS

  • I can talk and write about my family
  • I can describe people’s character
  • I can talk about what I can and can’t do
  • I can write a profile of a famous person
  • I can write a text about my favourite TV family
  • I can write my own poem using animal similes

GRAMMAR 11-14

In this module, you will learn about Can (ability), Possessive Case (‘s/s’/whose), Present Simple, and Prepositions of Time (at, on, in)

EXTRA: Linkers (and, but)

 

Return to Action 1 >>>>

MODULE 4 EXERCISES แบบฝึกหัด:

  1. SPELLING TESTS: Flashcards | Matching 1 | Matching 2 | Spelling 1 | Spelling 2
  2. WORDSEARCH: One | Two
  3. Just a Minute
  4. HANGMAN
  5. IDIOMSMatch the Thai and English idioms
  6. FAMILY TREESorting Names | 01A | 01B | 02A | 02B | 03A | 03B
  7. PHRASES: Match the English on the right to the Thai on the left

GRAMMAR EXERCISES:

Spelling List and Audio

  1. afternoon (n.) ตอนบ่าย
  2. brother (n.) พี่ชาย /น้องชาย
  3. busy (adj.) ยุ่ง /วุ่นวาย
  4. children (n.) เด็ก
  5. culture (n.) วัฒนธรรม
  6. dictionary (n.) พจนานุกรม
  7. evening (n.) ตอนเย็น
  8. fair (adj.) ผมสีอ่อน /ผิวขาว
  9. family (n.) ครอบครัว
  10. famous (adj.) มีชื่อเสียง /โด่งดัง
  11. father (n.) คุณพ่อ /บิดา
  12. football (n.) ลูกฟุตบอล /กีฬาฟุตบอล
  13. funny (adj.) ตลก
  14. gentle (adj.) อ่อนโยน
  15. grandfather (n.) คุณตา /ปู่
  16. grandmother (n.) คุณยาย /ย่า
  17. midnight (n.) เที่ยงคืน
  18. mother (n.) คุณแม่ /มารดา
  19. parents (n.) พ่อแม่ /ผู้ปกครอง
  20. people (n.) คน /มนุษย์
  21. playful (adj.) ขี้เล่น /ซุกซน
  22. routine (n.) กิจวัตรประจำวัน
  23. sister (n.) พี่สาว /น้องสาว
  24. strong (adj.) แข็งแรง
  25. wise (adj.) ฉลาด

ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

  • THE VERB CAN

–  can ใช้ได้ทั้งประธานเอกพจน์และพหูพจน์ (ในรูปเดียวกันคือ can)

และรูปปฏิเสธของ can คือ cannot ไม่ใช่ can not

–  เราใช้ can เพื่อ

1)   แสดงถึงความสามารถ เช่น

I can speak English.

2)   ขอร้องให้บางคนทำบางสิ่งบางอย่างให้ เช่น

Can I ask you a question?

3)   ขอบางสิ่ง เช่น

Can you stop talking, please?

4)   ขออนุญาตทำบางสิ่งบางอย่าง เช่น

Can I answer the phone?

–  เราใช้ can เพื่อแสดงการห้าม / ข้อห้าม เช่น

You can’t open your books now.

 

  • Possessive case (’s genitive) / whose

–  เราใช้ possessive case เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ

1)   สำหรับคำนามเอกพจน์และคำนามเฉพาะ เราจะเติม ’s หลังคำนาม เช่น

This is my father’s car.

2)   สำหรับคำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย -s เราจะเติมแค่ ’ เช่น

This is my cousins’ house.

3)   โดยทั่วไปเราใช้ possessive case (’s) เมื่อพูดเกี่ยวกับคน แต่ถ้าพูดเกี่ยวกับสิ่งของ

เราจะใช้คำบุพบท of เช่น

Tom’s father. The legs of the table.

–  เราใช้ whose เพื่อถามเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ เช่น

Whose diary is this? – It’s Helen’s.

  • Present Simple

–  ประโยค Present Simple สามารถสร้างได้โดยการใช้บุรุษสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นประธาน

(I / you / he / she / it / we / you / they) และคำกริยา เช่น

ประโยคบอกเล่า _   He / She / It runs.

I / You / We / They run.

ประโยคปฏิเสธ   _   He / She / It doesn’t runs.

I / You / We / They don’t run.

      ประโยคคำถาม   _   Does he / she / it runs?

Do I / you / we / they run?

การตอบคำถามแบบสั้น   _    Yes, he / she / it does.

                                                No, he / she / it doesn’t.

Yes, I/ you / we / they do.

No, I / you / we / they don’t.

  • Spelling (3rd person singular)

–  คำกริยาส่วนใหญ่จะเติม -s เมื่อตามหลังสรรพนามเอกพจน์บุรุษที่ 3 (he / she / it) เช่น

I drinkHe drinks,     I read He reads

–  เราจะเติม -es ท้ายคำกริยาที่ลงท้ายด้วย -ss, -sh, -ch, -z, -x,-o เช่น

I kiss – He kisses,        I push – He pushes,        I catch – He catches,       I fix – He fixes,

I go – He goes,            I buzz – He buzzes,         I do – He does

–  คำกริยาที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะ + y ให้ตัด -y ออก และเติม -ies เช่น

I cry – He cries,           I fry – He fries

–  คำกริยาที่ลงท้ายด้วยสระ + y ให้เติม -s หลัง -y ได้เลย เช่น

I say – He says,           I pay – He pays

  • Prepositions of time

Prepositions of time (คำบุพบทบอกเวลา) จะใช้เมื่อเราต้องการพูดว่าบางสิ่งเกิดขึ้นเมื่อไหร่

–  เราใช้ at กับ

Ø  เวลา เช่น at 9 o’clock, at 20:45, etc

 

Ø  วันหยุด เช่น at the weekend, at Christmas, at Easter, etc

Ø  การแสดงเวลาเฉพาะ เช่น at noon, at midday, at night, at midnight, etc

–  เราใช้ in กับ

Ø  ช่วงของวัน เช่น in the morning / afternoon / evening, etc

Ø  เดือน เช่น in April, in November, etc

Ø  ฤดูกาล เช่น in the winter / spring / summer / autumn

Ø  ปี เช่น in 2000, in 1492, etc

Ø  การแสดงเวลาเฉพาะ เช่น in half an hour, in 10 minutes, etc

–  เราใช้ on กับ

Ø  วัน เช่น on Sunday, on Friday, on weekday, etc

Ø  วันที่ เช่น on 6th  June, etc